บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กรกฎาคม, 2018

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ Sparkling Wine (สปาร์คกลิ้งไวน์)

รูปภาพ
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ Sparkling Wine (สปาร์คกลิ้งไวน์) สำหรับเครื่องดื่มที่ผู้คนส่วนใหญ่รู้จักและเรียกกันติดปากอย่างแน่นอนหากพูดถึง Sparkling Wine (สปาร์คกลิ้งไวน์) ก็คงจะไม่พ้นเจ้า Champagne (แชมเปญ) แต่จริงๆ แล้ว Sparkling Wine มีมากกว่านั้น เพราะ Sparkling Wine เป็นเครื่องดื่มที่ถูกผลิตขึ้นทั่วโลก แม้ว่าจะมีวิธีการผลิตที่ใกล้เคียงกัน แต่แต่ละพื้นที่ก็มีคาร์แรคเตอร์ และการใช้พันธุ์องุ่นที่แตกต่างกันออกไป วันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับประเภทของสปาร์คกลิ้งไวน์กันครับ 1. CHAMPAGNE (แชมเปญ) Champagne (แชมเปญ) คือ Sparkling Wine (สปาร์คกลิ้งไวน์) ประเภทหนึ่งที่ผลิตขึ้นในแคว้น Champagne (ชอมปาล) ประเทศฝรั่งเศสเท่านั้น Champagne มักทำมาจากองุ่นพันธุ์ Pinot Noir (ปิโนต์ นัวร์), Pinot Meunier (ปิโนต์ เมอนิเยร์) และ Chardonnay (ชาร์ดอนเนย์) ถ้าหากฉลากบนขวดเขียนว่า “Blanc de Blanc” แปลได้ว่า Champagne ขวดนั้นทำมาจากองุ่นขาวเท่านั้น แต่หากเป็น “Blanc de Noirs” ก็คือผลิตด้วยองุ่นดำเท่านั้น 2. Cava (กาวา) Cava (กาวา) คือ Sparkling Wine (สปาร์คกลิ้งไวน์) จากสเปน ผลิตด้วยกรรมวิธีการ

Aperitif เครื่องดื่มเก่าแก่สารพัดประโยชน์

รูปภาพ
Aperitif เครื่องดื่มเก่าแก่สารพัดประโยชน์ หลังจากที่เราได้แนะนำให้ท่านรู้จักกับเครื่องดื่มมากมายหลายประเภทไปแล้ว มาคราวนี้เราจะมาแนะนำให้ท่านรู้จักกับเจ้าเครื่องดื่ม แอพเพอริทิฟ ที่ชาวอิตาลี่นั้น มักจะนำมาดื่มก่อนอาหารกันครับ แอพเพอริทิฟ (Aperitif) คือเหล้าที่นิยมดื่มก่อนอาหาร เป็นเครื่องดื่มเก่าแก่ จัดอยู่ในประเภทเหล้ายา นิยมมากในประเทศอิตาลี แอพเพอริทิฟทำมาจาก เหล้าองุ่น สมุนไพร และเครื่องเทศ แบ่งเป็น 3 ชนิดด้วยกัน อนิซ (Anis) เป็นเหล้ายาสีเหลืองใสทำจากเมล็ดของ Anis กลิ่นหอมเย็นๆนิยมดื่มแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ เช่น Pastis, Pernod, Ricard, แถมเจ้า “อนิซ”ยังเป็นเหล้าที่มีดีกรีสูงที่สุดในบรรดาเหล้าด้วยกัน บิตเตอร์ (Bitter) เป็นเหล้ายาที่มีรสชาติขม ชาวยุโรปนิยมนำมาดื่มแก้โรคกระเพาะ ซึ่งชาวยุโรปเชื่อว่าเจ้า Bitter มีส่วนช่วยในการย่อยอาหารได้ Bitter บางชนิดมีรสขมมาก บางชนิดก็มีรสชาติขมอมหวาน เช่น Branca, Branca Menta, Campari, Fernet Angostura Bitter เวอร์มุท (Vermouth) เป็นเหล้ายาทำจากรากไม้และเครื่องเทศ มีกลิ่นและรสชาติที่แตกต่างกันออกไป เวอร์มุทเป็นสุราหมักชนิด

ความแตกต่างของเบียร์แต่ละประเภทที่่หลายๆ คนยังไม่รู้

รูปภาพ
ความแตกต่างของเบียร์แต่ละประเภทที่่หลายๆ คนยังไม่รู้ เบียร์คือเครื่องดื่มยอดนิยม ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศใดก็ตาม ซึ่งเบียร์จะสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ นั้นก็คือ Ale (เอล), Lager (ลาเกอร์) และ Lambic (เบียร์ลัมบิค) ซึ่งทั้งสามชนิดนี้ ถูกแบ่งตามระดับอุณหภูมิ และ Yeast (ยีสต์) ที่ใช้ในการผลิต “ALE BEER (เบียร์เอล)” Ale Beer (เบียร์เอล) ผลิตโดยใช้อุณหภูมิอยู่ที่ 18- 24 องศาเซลเซียส และใช้การหมักแบบ ยีสต์ลอยผิว คือการที่ยีสต์ลอยอยู่ที่ผิวหน้าของเบียร์เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการหมัก เบียร์เอลนั้นมีความความโดดเด่นอยู่ที่รสชาติที่ออกไปทางหวาน, มีสีหลากหลาย ตั้งแต่ทองจนถึงสีน้ำตาล โดยแตกต่างกันไปตามเมล็ดข้าวที่นำมาใช้ในกระบวนการผลิต และแบ่งย่อยลงไปได้อีก ดังนี้ WHEAT BEER (วีทเบียร์) คือ เบียร์ที่โดดเด่นด้วยสีเหลืองสว่าง ให้รสสัมผัสที่สดชื่น PALE ALE (เพลเอล) Pale Ale (เพลเอล) มีเอกลักษณ์คือสีใสสว่าง รสสัมผัสของ Malt (ข้าวมอลต์) และ Hops (ฮอปส์) เด่นชัด INDIA PALE ALE (อินเดียเพลเอล) หรือ IPA (ไอพีเอ) IPA (ไอพีเอ) เป็นเบียร์ที่แยกออกมาจาก Pale Ale (เพลเอล) เป็นเ

พื้นฐานของคราฟต์เบียร์ ที่หลายๆท่านยังไม่รู้จัก

รูปภาพ
พื้นฐานของคราฟต์เบียร์ ที่หลายๆท่านยังไม่รู้จัก คราฟต์เบียร์ (Craft Beer) หรือ Microbrews คือ เบียร์ที่ผลิตโดยผู้ผลิตรายย่อย ที่ดำเนินการอย่างอิสระ มีกำลังผลิตไม่มากนักคือน้อยกว่า 6 ล้านบาร์เรล หรือ 7 ร้อยล้านลิตรต่อปี เพราะใช้กรรมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิม ตั้งแต่วิธีการหมักไปจนถึงการบรรจุขวด เรียกกันง่ายๆ ว่าเบียร์แฮนด์เมดก็ว่าได้ ส่วนผสมของเบียร์ - น้ำ เบียร์มีส่วนประกอบเป็นน้ำกว่า 90% อย่างที่คอเบียร์มักกล่าวว่า เบียร์จะดีหรือไม่ มีเอกลักษณ์อย่างไร ขึ้นอยู่กับ ‘น้ำ’ ของแต่ละที่่ ที่ทำให้เบียร์มีรสชาติแตกต่างกันออกไป - ฮอป (Hop) เป็นดอกไม้ชนิดที่มีความใกล้เคียงกับกัญชา ทำหน้าที่ในการรักษาความสมดุล เพิ่มรสชาติให้เบียร์แต่ละชนิดมีเอกลักษณ์ของตัวเอง - ข้าวบาร์เลย์ (Barley) ข้าวบาร์เลย์เป็นข้าวที่มีแป้งอยู่มาก ซึ่งเมื่อผ่านกระบวนการ Malting จะเกิดน้ำตาลที่ยีสต์สามารถกินได้ - ยีสต์ มีส่วนในการสร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือฟองในเบียร์นั่นเอง การรินเบียร์ให้อร่อย 1. เริ่มจากการเตรียมแก้ว แก้วที่เตรียมไว้ควรจะเป็นแก้วที่สะอาด ไม่มีคราบมันและสิ่งสกปรกต่างๆ เพราะคราบมันอาจ

ประโยชน์จากน้ำแร่ และ การดื่มน้ำอย่างถูกวิธี

รูปภาพ
ประโยชน์จากน้ำแร่ และ การดื่มน้ำอย่างถูกวิธี 1. การดื่มน้ำ ช่วยให้สุขภาพผิวดูมีน้ำมีนวล เปล่งปลั่งสดใส 2.น้ำช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยได้ และช่วยป้องกันไม่ให้ผิวของเราแห้งกร้านช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว 3.ช่วยให้ดวงตาของคุณดูสดใส มีชีวิตชีวา 4.ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย 5. ช่วยชะลอความแก่ ทำให้เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายไม่ขาดน้ำ และ ทำงานำด้อย่างปกติ 6. น้ำช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายของเราได้ ช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกายให้คงที่ 7. น้ำช่วยลดอาการการปวดศีรษะและไมเกรนได้ไม่มากก็น้อย เพราะผู้ป่วยไมเกรนหากร่างกายขาดน้ำหรือได้รับไม่เพียงพอแล้ว อาการปวดหัวอาจจะรุนแรงเพิ่มมากขึ้น 8.การดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้วจะช่วยให้ปริมาณไขมันในร่างกายของเราให้ลดลงได้ 9.น้ำมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักตัว โดยไปลดความอยากอาหารก่อนการรับประทานอาหารนั่นเอง 10. น้ำช่วยในการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย การดื่มน้ำอย่างถูกวิธี 1. การดื่มนั้นที่ถูกต้องนั้น ควรดื่มอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือจะให้ดีก็วันละ 14 แก้ว หรือโดยเฉลี่ยแล้วควรดื่มน้ำให้เพียงพอกับน้ำหนักตัวของคุณ เช่น ถ้าคุณมีน้ำหนัก 60 kg.

สายพันธุ์ของกาแฟ ( SPECIES OF COFFEE )

รูปภาพ
สายพันธุ์ของกาแฟ ( SPECIES OF COFFEE ) บนโลกนี้มีกาแฟอยู่หลากหลายสายพันธุ์ด้วยกัน การเรียกกาแฟในแต่ละสายพันธุ์จะเรียกตามพื้นที่ปลูกบ้างหรือพื้นที่ที่พบพันธุ์ของกาแฟนั้นในครั้งแรกบ้าง กาแฟที่มีชื่อเสียงโด่งดังและได้รับความนิยมจะมีอยู่ด้วยกัน 3 สายพันธุ์ คือ กาแฟพันธุ์โรบัสต้า (Robusta) กาแฟสายพันธุ์นี้ปลูกในพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลไม่มากนัก ส่วนใหญ่ปลูกในประเทศแถบร้อนชื้น มีรสชาติเข้มข้น หอมฉุนกว่ากาแฟพันธุ์อื่นๆ มีสัดส่วน ของผลผลิตกาแฟทั่วโลกถึง 25% และยังเป็นสายพันธุ์ที่มีความทนทานต้านทานโรคสูง ปลูกง่าย ให้ผลผลิตต่อไร่สูง การบำรุงรักษาทำได้ง่าย กาแฟสายพันธุ์นี้มีปริมาณของคาเฟอีนประมาณ 2% นิยมนำไปทำเป็นกาแฟผงหรือกาแฟสำเร็จรูป (Instant Coffee) รวมไปถึงการนำไปผสมกับสายพันธุ์อื่นเพื่อให้มีรสชาติ กลิ่น ที่แปลกไปจากเดิมหรือที่เรียกว่าเบลนด์กาแฟครับ กาแฟพันธุ์ไลเบริกา(Liberica) เป็นพันธุ์กาแฟที่มาจากแถบแอฟริกา การปลูกและการดูแลรักษาทำได้ง่ายเหมือนโรบัสต้า เป็นสายพันธุ์ที่ผู้คนนิยมน้อยที่สุดเลยก็ว่าได้ ส่วนมากจะนำกาแฟพันธุ์นี้ไปปรุงพิเศษหรือการผสมรวมกับกาแฟพันธุ์