เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ Sparkling Wine (สปาร์คกลิ้งไวน์)

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ Sparkling Wine (สปาร์คกลิ้งไวน์)


สำหรับเครื่องดื่มที่ผู้คนส่วนใหญ่รู้จักและเรียกกันติดปากอย่างแน่นอนหากพูดถึง Sparkling Wine (สปาร์คกลิ้งไวน์) ก็คงจะไม่พ้นเจ้า Champagne (แชมเปญ) แต่จริงๆ แล้ว Sparkling Wine มีมากกว่านั้น เพราะ Sparkling Wine เป็นเครื่องดื่มที่ถูกผลิตขึ้นทั่วโลก แม้ว่าจะมีวิธีการผลิตที่ใกล้เคียงกัน แต่แต่ละพื้นที่ก็มีคาร์แรคเตอร์ และการใช้พันธุ์องุ่นที่แตกต่างกันออกไป วันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับประเภทของสปาร์คกลิ้งไวน์กันครับ

1. CHAMPAGNE (แชมเปญ)

Champagne (แชมเปญ) คือ Sparkling Wine (สปาร์คกลิ้งไวน์) ประเภทหนึ่งที่ผลิตขึ้นในแคว้น Champagne (ชอมปาล) ประเทศฝรั่งเศสเท่านั้น Champagne มักทำมาจากองุ่นพันธุ์ Pinot Noir (ปิโนต์ นัวร์), Pinot Meunier (ปิโนต์ เมอนิเยร์) และ Chardonnay (ชาร์ดอนเนย์) ถ้าหากฉลากบนขวดเขียนว่า “Blanc de Blanc” แปลได้ว่า Champagne ขวดนั้นทำมาจากองุ่นขาวเท่านั้น แต่หากเป็น “Blanc de Noirs” ก็คือผลิตด้วยองุ่นดำเท่านั้น

2. Cava (กาวา)

Cava (กาวา) คือ Sparkling Wine (สปาร์คกลิ้งไวน์) จากสเปน ผลิตด้วยกรรมวิธีการบ่มในขวด (Traditional Methods) เช่นเดียวกับ Champagne จึงทำให้มีฟองที่ค่อนข้างละจะเอียดและนุ่มนวล Cava (กาวา) มักจะมีคาร์แรคเตอร์ที่ Dry (ไม่หวาน) ให้รสสัมผัสคล้ายกับแอบเปิ้ลเขียว และผลิตโดยใช้พันธุ์องุ่นในท้องถิ่นเช่น Xarel-lo (ซาเรลโลโล่), Macabeo (มากาเบโอ), Parellada (ปาเรลยาดา) และ Chardonnay (ชาร์ดอนเนย์)

3. Prosecco (โปรเซคโก้)

Prosecco (โปรเซคโก้) คือ Sparkling Wine ขึ้นชื่อจากประเทศอิตาลี มักจะผลิตโดยใช้กรรมวิธี “Charmat Method” หรือ “Tank Method” ซึ่งก็คือการบ่มครั้งที่สองในถัง และใช้แรงดันบรรจุไวน์ลงขวดในภายหลัง ทำให้ฟองของ Prosecco จึงใหญ่และหยาบกว่า แต่จุดเด่นของ Prosecco ก็คือรสสัมผัสอันชุ่มฉ่ำของผลไม้ และรสที่ค่อนข้างหวาน

4. American Sparkling Wine

ผู้ผลิต Sparkling Wine ในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะ ในรัฐ California (แคลิฟอร์เนีย) มักจะได้รับอิทธิพลการผลิตมาจาก Champagne เพียงแต่ต่างกั#7A378Bนตรงที่ Sparkling Wine จากสหรัฐอเมริกาจะมีคาร์แรคเตอร์ที่หลากหลายมากกว่า ตั้งแต่ Dry (ไม่หวาน) แบบ Champagne จนถึงหอมหวานสดชื่นแบบ Prosecco ไปเลยก็มี

5. Australia Sparkling Wine

Sparkling Wine ชื่อดังมากมายถูกผลิตขึ้นในประเทศประเทศออสเตรเลีย โดยเฉพาะเขต Victoria’s Yarra Vallay (วิคตอเรีย ยาร์รา วัลเลย์) ซึ่งมีภูมิอากาศคล้ายคลึงกับแคว้น Champagne ประเทศฝรั่งเศสเลยทีเดียว Winery ชื่อดังมักจะมาจับจองพื้นที่นี้ผลิต Sparkling Wine และหนึ่งในนั้นก็คือ Chandon ซึ่งเป็นแบรนด์ลูกของ Moet & Chandon ด้วย


วิธีการดูระดับความหวานของ SPARKLING WINE
เราสามารถดูระดับความหวานของ Sparkling Wine (สปาร์คกลิ้งไวน์) ที่ระบุอยู่บนฉลากได้ จากการเรียนรู้คำศัพท์เหล่านี้

1. Extra Brut =1. Extra Brut = Very Dry (ไม่หวาน)
1. Extra Brut = 2. Brut = Very Dry (ไม่หวาน) - Dry (หวานน้อย)
1. Extra Brut = 3. Extra-Sec หรือ Extra-Dry = Dry (หวานน้อย) - Medium Dry (ค่อนข้างหวาน)
1. Extra Brut = 4. Sec = Medium Dry (ค่อนข้างหวาน)
1. Extra Brut =5. Demi-Sec = Sweet (หวาน)
1. Extra Brut = 6. Doux = Luscious หรือ Super-Sweet (หวานมาก)

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

8 ชนิดของเหล้าที่นักดื่มควรรู้

รูปภาพ
8 ชนิดของเหล้าที่นักดื่มควรรู้ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถูกแบ่งออกเป็นหลายประเภทด้วยกัน ทั้งตามส่วนประกอบและการผลิตคะ วันนี้เราก็ได้นำเอาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดต่างๆ ที่นักดื่มควรจะรู้ มาให้ทุกท่านได้ศึกษากันคะ 1.วิสกี้ (Whisky) วิสกี้ คือสุรากลั่นที่ทำจากข้าวชนิดใดชนิดหนึ่ง หรือจากหลากหลายชนิดก็ได้ โดยนำมาหมักแล้วกลั่นให้มีดีกรีสูงขึ้น จากนั้นนำไปเก็บบ่มในถังไม้โอ๊กเพื่อให้ได้สี กลิ่น รสที่ดีขึ้น แต่ก่อนจะนำมาบรรจุขวด บางชนิดมีการนำไปปรุงแต่งสี กลิ่น รสอีกครั้ง เพื่อให้ได้มาตรฐานตามความนิยมของผู้บริโภค วิสกี้โดยทั่วไปแบ่งได้เป็นประเภทใหญ่ๆ ดังนี้ สก๊อตวิสกี้ (Scotch Whisky) คือวิสกี้ที่ผลิตในประเทศ "สก๊อตแลนด์" ไอริชวิสกี้ (Irish Whiskey) คือวิสกี้ที่ผลิตในประเทศ "ไอร์แลนด์" เบอร์เบิ้นวิสกี้ (Bourbon Whiskey) คือวิสกี้ที่ผลิตในประเทศ "อเมริกา" แคนาเดียนวิสกี้ (Canadian Whisky) คือวิสกี้ที่ผลิตในประเทศ "แคนาดา" ส่วนวิสกี้ที่ผลิตในประเทศอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ เช่น ไทย, จีน, อังกฤษ, ญี่ปุ่น ซึ่งจะมีเอกลักษณ์ในด้าน กลิ่น และรสชาตที่แตกต...
อ่านเพิ่มเติม

13 Cocktail สุดฮิตของยอดรักนักดื่ม

รูปภาพ
เรามาลองทำความรู้จักกัน ค็อกเทล (COCKTAIL) ก็คือเครื่องดื่มผสมที่มีเหล้า (มีวัตถุดิบที่เป็นแอลกอฮอล์อยู่เป็นหลัก) แถมยังมีส่วนประกอบอื่น ๆ อย่างเช่น น้ำผลไม้, น้ำอัดลม ฯลฯ เข้าไปด้วย ค็อกเทล บางสูตรมักนิยมใช้เหล้าใส่ลงไปอย่างน้อย 1 ชนิด หรืออาจจะมากกว่านั้นแล้วแต่สูตรและสไตล์ของแต่ละคน ซึ่งมักจะนิยมดื่มก่อนการรับประทานอาหารกันเป็นส่วนใหญ่ เพราะค็อกเทลบางสูตรช่วยให้เจริญอาหาร แถมทำให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่าได้อีกด้วย และมีหลายสูตรที่ถูกจัดให้เป็นค็อกเทลคลาสสิกที่ทั่วโลกให้การยอมรับ อยากรู้หรือยังว่ามีสูตรไหนกันบ้าง ไปกันเลยจร้าา !! 1. Margarita ค็อกเทลสุดคลาสสิกจากเม็กซิโกตั้งแต่ปี 1942 มาร์การิต้า เป็นค็อกเทลที่สาว ๆ นิยมสั่งกัน ด้วยรสชาติออกแนวเปรี้ยวและ ผสมด้วยเหล้าเตกีล่าทำให้ค่อนข้างดื่มง่ายถูมะนาวที่ปากแก้วแล้วคว่ำแก้วลงบนเกลือมีรสเค็มนิดๆ ตัดกับความเปรี้ยวและแอลกอฮอล์ 2. B-52 มีส่วมผสมของ เหล้า 3 ชนิด คือ Kahlua, Bailey's,Triple Sec ที่ต้องบรรจงรินให้เป็นชั้นเรียงกันสวยๆ ก่อนเสิร์ฟก็จะจุดไฟ ดื่มโดยการนำหลอดดูดรวดเดียวหมดรสชาติร้อนแรงดั่งไฟจริงๆ เป็นค็อกเทลร้อ...
อ่านเพิ่มเติม

Aperitif เครื่องดื่มเก่าแก่สารพัดประโยชน์

รูปภาพ
Aperitif เครื่องดื่มเก่าแก่สารพัดประโยชน์ หลังจากที่เราได้แนะนำให้ท่านรู้จักกับเครื่องดื่มมากมายหลายประเภทไปแล้ว มาคราวนี้เราจะมาแนะนำให้ท่านรู้จักกับเจ้าเครื่องดื่ม แอพเพอริทิฟ ที่ชาวอิตาลี่นั้น มักจะนำมาดื่มก่อนอาหารกันครับ แอพเพอริทิฟ (Aperitif) คือเหล้าที่นิยมดื่มก่อนอาหาร เป็นเครื่องดื่มเก่าแก่ จัดอยู่ในประเภทเหล้ายา นิยมมากในประเทศอิตาลี แอพเพอริทิฟทำมาจาก เหล้าองุ่น สมุนไพร และเครื่องเทศ แบ่งเป็น 3 ชนิดด้วยกัน อนิซ (Anis) เป็นเหล้ายาสีเหลืองใสทำจากเมล็ดของ Anis กลิ่นหอมเย็นๆนิยมดื่มแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ เช่น Pastis, Pernod, Ricard, แถมเจ้า “อนิซ”ยังเป็นเหล้าที่มีดีกรีสูงที่สุดในบรรดาเหล้าด้วยกัน บิตเตอร์ (Bitter) เป็นเหล้ายาที่มีรสชาติขม ชาวยุโรปนิยมนำมาดื่มแก้โรคกระเพาะ ซึ่งชาวยุโรปเชื่อว่าเจ้า Bitter มีส่วนช่วยในการย่อยอาหารได้ Bitter บางชนิดมีรสขมมาก บางชนิดก็มีรสชาติขมอมหวาน เช่น Branca, Branca Menta, Campari, Fernet Angostura Bitter เวอร์มุท (Vermouth) เป็นเหล้ายาทำจากรากไม้และเครื่องเทศ มีกลิ่นและรสชาติที่แตกต่างกันออกไป เวอร์มุทเป็นสุราหมักชนิด...
อ่านเพิ่มเติม